แม้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพด้านการตอบสนองด้านโหลดแบบอัตโนมัติจะมีอยู่หลากหลาย แต่ในการใช้งานด้านการตอบสนองด้านโหลดจะไม่พิจารณาเพียงแค่ศักยภาพในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ใช้ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการ อย่างรอบคอบด้วย

การจำแนกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ตามศักยภาพเชิงความยืดหยุ่นในการใช้งานและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการการตอบสนองด้านโหลด ได้ผลลัพธ์เป็นสามกลุ่มใหญ่ดังต่อไปนี้

1. กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพในเชิงความยืดหยุ่นสูง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานต่ำ โดยอุปกรณ์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า และระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (BESS)

อุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง เช่น สามารถปรับลดหรือเพิ่มอุณหภูมิได้ ปรับเปลี่ยนเวลาในการอัดประจุไฟฟ้าได้ โดยที่ผลกระทบต่อผู้ใช้งานมีเพียงความรู้สึกร้อนหรือเย็นขึ้นเล็กน้อย หรือใช้เวลาในการอัดประจุมากขึ้น เป็นต้น อุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้พิจารณาได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ ด้านการตอบสนองด้านโหลดสูงสุด

2. กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพในเชิงความยืดหยุ่นต่ำ และมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานสูง โดยอุปกรณ์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง พัดลมระบายอากาศ เครื่องส่งลมเย็นในอาคาร

อุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานในระดับต่ำเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องและมีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าสูง เช่น อาจทำให้ของเกิดความเสียหายจากระดับความเย็นที่ลดลง หรือทำให้การหมุนเวียนอากาศในอาคารด้อยลง ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้อาคาร เป็นต้น อุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้จึงมีศักยภาพด้านการตอบสนองด้านโหลดต่ำกว่ากลุ่มแรกค่อนข้างมาก

3. กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพเฉพาะสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น โดยอุปกรณ์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ระบบแสงสว่าง เครื่องดูดควัน เป็นต้น

อุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้มีศักยภาพด้านการตอบสนองด้านโหลดในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจาก การปรับรูปแบบการทำงานมีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างมาก เช่น ขาดแสงสว่างที่เพียงพอจนอาจเกิดอุบัติเหตุ หรือการระบายอากาศไม่มีประสิทธิภาพจนส่งผลต่อชีวิต เป็นต้น การเรียกใช้งานการตอบสนองด้านโหลดสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้จึงจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีความจำเป็นขั้นสูงสุดเท่านั้น

นอกจากอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งสามกลุ่มนี้ ระบบบริหารจัดการพลังงานอย่างเช่น ระบบบริหารจัดการพลังงาน ในบ้าน (Home Energy Management System หรือ HEMS) และระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคาร (Building Energy Management System หรือ BEMS) ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ระบบดังกล่าวสามารถเลือกปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากที่อยู่ภายใต้ระบบฯ ตามที่เห็นว่าเหมาะสม ในแต่ละช่วงเวลา จึงมีศักยภาพด้านการตอบสนองด้านโหลดอยู่ในระดับสูงและมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานต่ำ